วิวัฒนาการศิลปะร่วมสมัยของจิตรกรรมไทย

วิวัฒนาการของจิตรกรรมไทยร่วมสมัย มีการพัฒนาปรับตัวไปพร้อมกับความเจริญของสังคมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งการปรับตัวไปพร้อมๆ กับวิวัฒนาการทางด้านต่างๆ ซึ่งอยู่รอบตัวมนุษย์ ตามหลักสากลในยามที่วัฒนธรรมของสังคมใดสังคมหนึ่ง เกิดการเปลี่ยนแปลงไปซึ่งเป็นไปตามกลไกของระบบสังคม , งานจิตรกรรม โดยเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม ก็ทำให้ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเช่นเดียวกัน

มาศึกษาวิวัฒนาการของจิตรกรรมไทยร่วมสมัย

ถึงแม้ว่าองค์ประกอบหนึ่งของการแสดงออกทางด้านงานจิตรกรรมร่วมสมัยในประเทศไทย จะได้รับอิทธิพลโดยตรงมาจากการเคลื่อนไหวของศิลปะซึ่งแปรเปลี่ยนไปตามสภาพสากล อันเป็นสากลหากแต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคิดที่ในเรื่องของความเป็นอิสระเสรี ปราศจากความผูกพันที่มีต่อสิ่งใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ตัวจิตรกรเอง ได้มีโอกาสแสดงทักษะคติ และความเชื่อของตนผ่านผลงาน ด้วยการใส่ความคิดสร้างสรรค์ ในแนวทางที่เป็นของตัวเอง โดยมีการทดลองเทคนิควิธีการที่มีความเหมาะสมกับแนวความคิดในของแต่ละบุคคล

นำคติเก่ามาผสมผสานกับคติใหม่จนกระทั่งกลายเป็น ‘ผลงานรูปแบบเฉพาะตัว’

โดยในบางกรณีงานจิตรกรรมร่วมสมัย ก็มีนำค้าโครงของแนวความคิด ทางด้านจิตรกรรมไทยในรูปแบบประเพณี มาช่วยสร้างสรรค์แนวทางใหม่ๆ ของจิตรกรรมร่วมสมัยด้วยก็ได้เช่นกัน ซึ่งแทบจะไม่มีอะไรตายตัวเลย นอกจากนี้การศึกษาศิลปะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าเกิดขึ้นควบคู่มากับความเจริญ รวมทั้งวิวัฒนาการของจิตรกรรมไทยร่วมสมัย โดยงานจิตรกรรมไทยร่วมสมัย ไม่ได้มีแนวทางแบบโบราณซึ่งเดินตามแบบตระกูลช่างเขียน ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับงานจิตรกรรมไทยตามแบบประเพณี เช่น ตระกูลช่างนนทบุรี เป็นต้น ที่มีความโดดเด่นทางด้านการสร้างสรรค์งาน ตามแนวทางของการวางโครงการ รวมทั้งนำแนวความคิดของครูช่างเข้ามาผสมผสานจนเกิดเป็นผลงานที่มีความเป็นเอกลักษณ์ หากแต่อย่างไรก็ตามสำหรับจิตรกรรมไทยร่วมสมัยนั้น จิตรกรจะเป็นผู้ผลิต รวมทั้งสร้างสรรค์งานตามแนวทางของตนเองให้ออกมาเพื่อถ่ายทอดสิ่งที่ต้องการนำเสนออันมาจากใจ เพราะฉะนั้นแล้ว การศึกษาหาความรู้อย่างไม่หยุดยั้ง รวมทั้งกระตุ้นวิวัฒนาการด้านงานศิลปะให้ขับเคลื่อนไปในลักษณะสากล ด้วยเหตุนี้การวิเคราะห์ – วิจารณ์ – พิจารณาลักษณะงาน จึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

สถาบันสอนศิลปะแห่งแรกในประเทศไทย

เริ่มต้นขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่ได้มาจากการจัดตั้ง ‘โรงเรียนเพาะช่าง’ เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2456 เพื่อจัดการงานทางด้านศิลปะ รวมทั้งมอบการศึกษาทางด้านวิชาการทางด้านศิลปะในหลายสาขา อีกทั้งยังมีการจัดตั้งโรงเรียนประณีตศิลปกรรม หรือ โรงเรียนศิลปากรแผนกช่าง ในปี พ.ศ.2476 ขึ้นมา ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อรวมทั้งเปลี่ยนการจัดตั้งเป็น มหาวิทยาลัยศิลปากร ในปี พ.ศ.2486 โดยมีศาสตราจารย์ ‘ศิลป พีระศรี’ ชาวอิตาลี เป็นผู้เข้ามาวางรากฐานในการศึกษา ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับวิชาช่างสาขาจิตรกรรม และประติมากรรม ทั้งในรูปแบบของงานศิลปะสากล และศิลปะตามแบบประเพณีไทย โดยมีจุดประสงค์อันแรงกล้าในการผลิตศิลปิน ผู้ซึ่งมีใจรักในการทำงานศิลปะอย่างแท้จริง

เพราะฉะนั้น จึงสามารถสรุปได้ว่าวิวัฒนาการของจิตรกรรมร่วมสมัยในประเทศไทย มีการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ในปีพ.ศ.2477 เป็นต้นมา จนกระทั่งถึง ณ ปัจจุบัน ที่งานศิลป์ของไทย เกิดการพัฒนาแตกแขนงแยกย่อยมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากจนมีความโดดเด่นอย่างน่าทึ่ง นอกจากนี้ลักษณะของการสร้างสรรค์ผลงาน ก็ไม่จำกัดกรรมวิธี ไม่ว่าจะเป็นเทคนิค สีน้ำ , สีฝุ่น , สีชอล์ก , สีน้ำมัน , สีอะครีลิก รวมทั้งเทคนิคประสมอื่นๆ แล้วแต่การสังสรรค์ของศิลปินผู้นั้น โดยสิ่งที่ต้องคำนึงก็คือ ศิลปินในแต่ละบุคคลต่างก็มีวิวัฒนาการ ในการสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมในรูปแบบของตนเอง ยามได้เชยชมทำให้ผู้ชมทราบได้ทันทีว่าใครคือเจ้าของผลงานชิ้นนี้ ซึ่งจัดเป็นผลงานอันทรงคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง